ดี กลูแคน ดูแลระบบภูมิคุ้มกัน

Beta-Glucan (เบต้า-กลูแคน)

เบต้า-กลูแคน เป็นสารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตจำพวก เห็ด ข้าวโพด ข้าวโอ๊ด ยีสต์ หรือสมุนไพรบางชนิด ในช่วงแรกที่มีการค้นพบนั้นใช้เป็นยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน และได้เริ่มศึกษากันอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจากทางมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการทดลองและวิจัยสารเบต้า-กลูแคนที่มีผลต่อร่างกายและได้พัฒนา เทคโนโลยีการสกัดให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีค่อนข้างสูงจนสามารถสกัดเบต้า-กลูแคน ที่บริสุทธิ์ได้เองในหลายๆประเทศ

ประโยชน์ของเบต้ากลูแคน

• กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งโดยปกติแล้ว เซลล์คุ้มกันในสิ่งมีชีวิตจะไม่ทำงานจนกว่าจะตรวจพบสิ่งแปลกปลอม เบต้า-กลูแคนจะไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์คุ้มกันเหล่านี้ให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา
• ต่อต้านโรคมะเร็งและลดอนุมูลอิสระ มีการนำเอาเบต้า-กลูแคนมาใช้ ในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งผิวหนังในต่างประเทศ และพบว่าจำนวนเซลล์มะเร็งลดลงเมื่อได้รับเบต้า-กลูแคน
• กระตุ้นให้แผลหายเร็ว โดยจะไปเพิ่มประสิทธิภาพของการเพิ่ม Collagen ให้กับบริเวณเนื้อเยื่อที่เป็นแผล
• เพิ่มการสร้างและการเจริญเติบโตของเม็ดเลือดขาว
• ปรับระดับการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย
• ลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัด เช่น การฉายแสง
• ปรับการทำงานของภูมิต้านทานที่ผิดปกติ เช่น ภูมิแพ้
• ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ฟื้นฟูตับอ่อน
• ช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือด
• ลดอาการปวดตามข้อ ไขข้ออักเสบ
• ลดการอักเสบ การติดเชื้อแทรกซ้อน
• บรรเทาอาการท้องผูก ช่วยระบบขับถ่าย
• รักษาความชุ่มชื้น ฟื้นฟูสภาพผิว ลบเลือนริ้วรอย 

Metabolic Enzyme
(เมตาบอลิค เอนไซม์)

เอนไซม์ คือ โปรตีนที่มีชีวิตขนาดเล็ก ที่ช่วยทำให้ทุกปฏิกิริยาเคมีของสิ่งมีชีวิตทำงานได้ และทำงานต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ถ้าขาดเอนไซม์ชีวิตก็ดำรงอยู่ไม่ได้ เพราะเอนไซม์คือผู้สร้างพลังงานให้แก่ชีวิต เปรียบเสมือนเป็น กุญแจแห่งชีวิต (Enzyme is the Key of Life)

ถ้ามนุษย์ขาดอาหาร ให้ดื่มแต่น้ำเปล่า
จะเสียชีวิตภายใน 60 วัน

ถ้าขาดน้ำด้วย มีแต่อากาศหายใจ
จะเสียชีวิตภายใน 3 วัน

และ ถ้าขาดอากาศหายใจด้วย
จะเสียชีวิตภายใน 3 นาที

แต่ถ้าขาดเอนไซม์ทั้งระบบ
จะเสียชีวิตภายใน เสี้ยววินาที

ประโยชน์ของเอนไซม์

• สามารถย่อยนิโคติน ป้องกันโรคปอด สำหรับผู้สูบบุหรี่จัด
• ช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารสมบูรณ์ อุจจาระน้อย ท้องไม่ผูก และไม่มีไขมันสะสม
• โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารทั้งหมด สามารถฆ่าเชื้อ และกำจัดสารพิษได้
• โรคที่ไม่มีเชื้อโรค เช่น โรคเก๊าต์ สะเก็ดเงิน เบาหวาน มะ.เร็ง พาคินสัน อัล.ไซเมอร์
• ท้องเสีย ท้องร่วงรุนแรง รับประทาน 1 เม็ด ต่อ น้ำหนักตัว 15 กก. จะเห็นผลภายใน 15 นาที
• สุภาพสตรีที่ปวดท้องประจำเดือน ตกขาวมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้ทานติดต่อกัน 1 เดือน
• เด็กเป็นภูมิแพ้ ผู้สูงอายุมีปัญหาอาหารไม่ย่อย 

แก๊ก (Gac Fruit)

ฟักข้าว มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก เช่น Beta-Carotene, Lycopene, Vitamin A, Oleic Acid, Palmitic Acid, Linoleic Acid, Omega-6, Omega-3 ฯลฯ

1. เบต้าแคโรทีน

- เบต้าแคโรทีนเป็นสารที่พบในพืชชนิดต่างๆ เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ โดยร่างกายจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนให้เป็นวิตามินเอ

- พบในผักและผลไม้ที่มีสีเหลืองเข้ม สีเขียวเข้ม สีส้ม เช่น แครอท มันเทศ พีช แอปพลิคอท ผักโขม บล็อกโคลี่ น้ำเต้า ฯลฯ

- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยต่อต้านมะเร็งที่เกิดจาก DNA ถูก ทำลาย จากการศึกษาการระบาทวิทยา ได้เชื่อมโยงการกินอาหาร ที่มีเบต้าแคโรทีนสูงและระดับนิวเทรียนต์ในเลือกสูงจะช่วยลดความเสี่ยงในการ เกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอด

*แก๊กมีเบต้าแคโรทีนมากกว่าแครอท 10 เท่า*

2. ไลโคปีน

- ไลโคปีน คือแคโรทีนนอยด์ที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งสร้างสีแดงในมะเขือเทศ ฝรั่ง(แดง) แตงโม พิงค์เกรปฟรุ๊ต โรสฮิป และฟักข้าว

- ไลโคพีนได้รับการทดสอบว่าสามารถต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวทำลายของร่างกาย

- ใน ร่างกายไลโคปีนสะสมอยู่ในตับ ปอด ต่อมลูกหมาก ลำไส้ และผิวหนัง โดยในเนื้อเยื่อของร่างกายจะสะสมไลโคพีนได้ดีกว่าแคโรทีนและแคโรทีนนอย์ตัว อื่นๆ

- จาก การศึกษาในหลายๆ เรื่องแสดงให้เห็นว่า ผักที่มีแคโรทีนนอย์สูง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง ตัวอย่างเช่น การทานมะเขือเทศเป็นประจำมีส่วนช่วยในการป้องกันมะเร็งทางเดินอาหาร ในการศึกษาบางการศึกษายังแสดงให้เห็นว่าการบริโภคอาหารที่มีไลโคพีน จะช่วยทำให้สุขภาพของต่อมลูกหมากดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง นอกจากนั้น ไลโคพีนยังให้ผลดีและป้องกันมะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสะวะ มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งผิวหนัง

- มีการวิจัยที่ให้ความเห็นว่า ไลโคปีน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เบาหวาน และปฏิกิริยา Oxidation (อนุมูลอิสระ)

*แก๊กมีไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศ 70 เท่า*

3. วิตามินเอ

- วิตามินเอ ถูกพบในอาหารเป็นสารที่จำเป็นต่อสุขภาพ

- นอก จากวิตามินเอจะถูกพบในฟักข้าว วิตามินเอยังถูกพบในตับ และผลิตภัณฑ์ที่มีไขมัน เช่น นม พีช เนย ไอศกรีม และในปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาเฮอร์ริ่ง ซาดีน ทูน่า และยังสามารถพบในน้ำมันตับปลาของปลาฉลาม ปลาคอท และปลา Hallibut

- วิตามินเอ มีส่วนร่วมในกระบวนการแบ่งเซลล์โดยช่วยป้องกันไม่ให้การแบ่งเซลล์ผิดปกติ เช่น การแบ่งที่ผิดปกติจนกลายเป็นมะเร็ง

- จากการศึกษาในสัตว์พบว่า วิตามินเอ ช่วยลดการเกิดโรคมะเร็ง

4. กรดไขมัน

- ไขมันในร่างกายแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือไขมันจำเป็นและไขมันสะสม

- ส่วนของไขมันที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์คือ กรดไขมันจำเป็น (EFAS)

- ไขมัน จำเป็นเป็นตัวสำคัญที่ช่วยให้ร่างการทำงานได้ปกติ มันจะถูกเก็บสะสมเป็นปริมาณเล็กน้อยในไขกระดูก อวัยวะระบบประสาทส่วนกลาง และกล้ามเนื้อ

- เมื่อ ได้รับประทานไขมัน ร่างกายจะนำไปเปลี่ยนเป็นกรดไขมัน ซึ่งถูกนำไปใช้ในการสร้างพลังงาน ช่วยในการเจริญเติบโต และเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์

- ร่างกายไม่สามารถสร้างกรดไขมันเองได้ จะได้จากการรับประทานเท่านั้น Omega6 Omega3 เป็นกรดไขมันที่สำคัญชนิดหนึ่ง

- คนส่วนมากจะได้รับ Omega6 มากกว่า Omega3

- Omega3 สำคัญต่อการพัฒนาสมองและการมองเห็นในเด็ก เสริมสร้างการเรียนรู้ ความจำ และมีส่วนช่วยในการลดความเครียด

Fish Hydrolyzed Collagen
(คอลลาเจนจากปลาทะเล)

• ผิวหน้า รักษาสมดุล ของน้ำหล่อเลี้ยง ให้ผิวชุ่มชื้น กลับมาตึงกระชับเหมือนเดิม
• ผิวพรรณ ลดอาการผิวแห้งกร้าน ดูมีน้ำมีนวลขึ้น
• กระดูก เสริมสร้างความแข็งแรง ไม่ให้เปราะบาง หักง่าย
• เล็บ ที่เคยเปราะบางหักง่าย จะแข็งแรงขึ้น
• เส้นผม แข็งแรง หนาขึ้นไม่หลุดร่วงง่าย
• ข้อ กระดูก บรรเทาอาการปวดข้อกระดูก เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น
• เส้นเลือด แข็งแรงขึ้น ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดในร่างกาย

Shark Cartilage Powder
(ผงกระดูกอ่อนปลาฉลาม)

ประโยชน์ของกระดูกอ่อนปลาฉลาม ลดการอักเสบของข้อหรือผิวหนัง Shark Cartilage ลดการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่จึงสามารถลดการอักเสบ ของข้อและผิวหนังได้ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปวดและอักเสบของข้อและผิวหนัง เช่น Rheumatoid, Eczema, Psoriasis เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มการสร้างสารภูมิคุ้มกันของร่างกาย

Calcium Ascorbate
(แคลเซียม แอสคอร์เบท)

แคลเซี่ยม แอสคอร์เบต คุณสมบัติ ประโยชน์เหมือนวิตามิน ซี ทุกประการ แต่แตกต่างตรงที่ไม่เป็นกรด ด้วยขวนการ การทำแคลเซี่ยม แอสคอร์เบต จะทำให้วิตามินซี เป็น กลาง หรือ เป็นกรดต่ำ (pH 7.6-8.0) และสิ่งที่ได้จากแคลเซี่ยม แอสคอร์เบต มากกว่าวิตามิน ซี คือเมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วจะแตกตัวได้แคลเซี่ยม มาด้วย เป็น วิตามินที่ละลายได้ในน้ำ ร่างกายไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานเข้าไป วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเพิ่มภูมิชีวิตได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถป้องกันและรักษาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและไวรัสได้

ประโยชน์ของแคลเซียมแอสคอร์เบท

• เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทั้งยังเป็นตัวสร้างกระดูก ฟัน เหงือก และเส้นเลือด
• ช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
• ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
• ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ (Mutation)
• ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนหลับตายในกรณีเด็กอ่อน (SIDS: Sudden Infant Death Syndrome)
• ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน
• ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
• ช่วยคลายเครียด
• การฉีดด้วยวิตามินซีปริมาณสูง อาจช่วยหยุดยั้งโรคมะ.เร็งได้ โดยวิตามินอาจเข้าทำปฏิกิริยาทางเคมีในเซลล์มะ.เร็งให้กลายเป็นกรดขึ้น ทำให้เนื้อร้ายชะงักและน้ำหนักลดไปได้ 

Organic Germanium
(ออร์แกนิค เจอร์เมเนียม)

ออร์แกนิค เจอร์เมเนียม เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย มีคุณสมบัติในการเพิ่มจำนวนออกซิเจนให้เซลล์ของร่างกาย รวมทั้งเพิ่มประจุไฟฟ้าทางชีวเคมีที่เป็นประโยชน์ ต่อการทำงานของหัวใจและระบบประสาท

คุณสมบัติของ Organic Germanium

• ช่วยชะลอความแก่ ป้องกันโรคมะเร็ง, หัวใจ
• มีประโยชน์กับหลอดเลือด ลดความดันโลหิต
• มีวิตามินซีสูง ป้องกันโรคหวัด ลดคลอเรสเตอรอล
• ช่วยดูแลตับและไต, โรคภูมิแพ้, นอนไม่หลับ, โรคผิวหนัง, โรคเบาหวาน
• ผลิตจากผลไม้ตระกูลเบอรี่ ช่วยบำรุงสายตา
• ช่วยขยายหลอดเลือด, แก้ปัญหาระบบทางเดินหายใจ, ดูแลผู้ติดเชื้อในระบบปัสวะ
• ช่วยในการเผาผลาญอาหาร, ดูแลความสมดุลของกระบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน
• ป้องกันอาการผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือดหัวใจล้มเหลว
• ดูแลดวงตา ผิวหนัง เหงือก ปัญหาในลำคอ แผลในกระเพาะอาหาร ท้องผูก และสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
• ล้างพิษ บรรเทาอาการจุกเสียด แน่นท้อง และปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อย
• มีกรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกายที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้
• อุดมด้วยกรดไขมันและสารต้านอนุมูลอิสระที่เข้มข้น
• ดูแลผู้ที่มีปัญหาโรคเก๊าท์ บรรเทาอาการเจ็บคอ ระคายเคืองในช่องปาก
• ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โรคดีซ่าย
• ป้องกันโรคกระดูกพรุน  ลดอาการปวดศรีษะ ไมเกรน ลดอาการปวดข้อรูมาตอยด์
• ควบคุมน้ำหนัก ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย
• ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการอ่อนเพลีย

สรรพคุณของ
ดีกลูแคน D-Glucan
เบต้า กลูแคน Beta Glucan
โดดเด่นในเรื่องเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

• เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
• ป้องกันโรคมะเร็ง
• เบาหวาน
• ลดความดันและระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด

ถาม-ตอบ เกี่ยวกับ 
ดีกลูแคน D-Glucan
เบต้า กลูแคน Beta Glucan
โดดเด่นในเรื่องเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

Q : คุณสมบัติของ ดีกลูแคน คืออะไร ?

A : ดีกลูแคนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ดูแลสุขภาพ มีความโดดเด่นในเรื่องเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย รวมถึงป้องกันโรคเสื่อมต่างๆ โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ เอ็นไซม์, สารสกัดจากเห็ดหลินจือ, เบต้ากลูแคน และฟักข้าว (แก๊ก)

Q : ดีกลูแคนมีส่วนผสมอะไร ? และช่วยอะไรได้บ้าง ?

A : เอ็นไซม์  เอ็นไซม์เป็นส่วนเสริมในร่างกายของเราช่วยในเรื่องของการย่อย รวมถึงทำให้ร่างกายของเราสามารถดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุมาใช้ได้ ทำให้ร่างกายของเราสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ ร่างกายจะมีการใช้เอ็นไซม์อยู่ทุกวัน หากเอ็นไซม์ไม่สมดุลจะทำให้ร่างกายป่วย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเติมเอ็นไซม์ให้กับร่างกายเป็นประจำ

     เบต้ากลูแคน เป็นโครงสร้างของน้ำตาลเชิงซ้อน ที่สกัดมาจากเห็ดชาปิยอง ปัจจุบันเป็นสารชนิดเดียวในโลกที่สามารถจับคู่กับเม็ดเลือดขาวในร่างกาย แล้วทำให้เม็ดเลือดขาวมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการต่อต้านเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย จึงช่วยเพิ่มเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายที่ดีมาก 

     ฟักข้าว หรือ แก๊ก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเสื่อม ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดี ชะลอแก่

     สารสกัดจากเห็ดหลินจือ เจอร์มาเนียมและโพลี่แซคคาไรด์ ที่สกัดได้จากเห็ดหลินจือ มีสรรพคุณในการวินิจฉัยและรักษาโรค โดดเด่นในการดูแลโรคที่เกี่ยวกับตับ และโรคมะเร็ง

Q : ทาน ดีกลูแคน แล้วจะมีผลข้างเคียงไหม ?

A : สินค้าเราสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งจากผลตอบรับของลูกค้าที่ผ่านมาตลอด 3 ปี ยังไม่พบผลข้างเคียงจากการทาน ดีกลูแคน

Q : ดีกลูแคน เหมาะกับใครบ้าง ?

A : เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพทุกวัย รวมถึงผู้ที่ป่วยบ่อยๆ หรือผู้ป่วย SLE, ผู้ที่ภูมิต้านทานต่ำหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง

Q : ต้องทานดีกลูแคนกี่วันจึงจะเห็นผล ?

A : ผลลัพธ์จากการทานขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ทาน แต่โดยปกติจะเห็นผลในสัปดาห์แรก ร่างกายจะสดชื่นขึ้น การขับถ่ายจะดีขึ้น

Q : มีวิธีการทาน ดีกลูแคน อย่างไร ?

A : ผู้บริโภคทั่วไป : ผสมน้ำ 1 แก้ว (250 มล) ชงดื่ม ช่วงท้องว่าง หรือก่อนทานอาหารเช้า (วันละ 1 ครั้ง)

     สำหรับผู้ป่วย : ผสมน้ำ 1 แก้ว (250 มล) ชงดื่ม ช่วงเช้าและก่อนนอน (วันละ 2 ครั้ง)

Q : ดีกลูแคนแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

A : ดีกลูแคน รวมสารสกัดที่มีคุณภาพในการเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย, ต้านอนุมูลอิสระ, เอ็นไซม์ และสารอาหารที่เป็นประโยชน์ แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดที่มีสารสกัดเพียงชนิดเดียว

Q : หยุดทานดีกลูแคนแล้วจะเป็นอย่างไร ?

A : หยุดทาน ดีกลูแคน แล้วไม่มีผลข้างเคียง แต่จะเป็นการดีกว่าหากเราดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น ต้นไม้หากเรารดน้ำทุกวันโดยไม่ได้ใส่ปุ๋ยเลย ต้นไม้ไม่ตายก็จริง แต่ไม่สมบูรณ์เหมือนกับเราใส่ปุ๋ยอยู่เป็นประจำ

Q : คนที่เป็นโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เส้นเลือดหัวใจตีบ ทำบอลลูนมา โรคเก๊าท์ ทานดีกลูแคนแล้วจะมีผลข้างเคียงไหม ?

A : ดีมากๆ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เหมาะสำหรับผู้ป่วย ช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว

Q : มีอย. และปลอดภัยไหม ?

A : ผลิตภัณฑ์ ดีกลูแคน ผลิตจากโรงงานที่ผ่าน GMP และ HACCP รวมถึงได้รับมาตรฐานการผลิตจากต่างประเทศ ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย โดยมีหมายเลข อย. 10-1-15456-1-0007

Q : ราคาแพง ?

A : หากเทียบกับผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดถือว่าถูกมากๆ เลย เพราะผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดที่มีเฉพาะเอ็นไซม์, เบต้ากลูแคน, หลินจือ หรือฟักข้าวเพียงอย่างเดียว ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 1,500 -3,000 บาทแล้ว แต่ดีกลูแคนมีส่วนผสมของสารสกัดถึง 4 ชนิด จึงถือว่าราคาไม่แพงเลย

ดีกลูแคน D-Glucan
เบต้า กลูแคน Beta Glucan
โดดเด่นในเรื่องเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 
มีประโยชน์ดังนี้

• เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
• ป้องกันโรคมะเร็ง
• เบาหวาน
• ลดความดันและระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด