#Self
ทำไมต้องรู้จักตัวเอง
เพราะเราควรรู้ สิ่งที่เป็นของเราเองจริงๆ
#ร่างกายของเรา
ประกอบดวย ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟแวร์
Self ถ้าเปรียบได้ ดั่งรถคันนึง
แรกๆ ได้มาก้อเหมือนรถป้ายแดง ดีไปหมด
ต่อมาก้อ ผ่านการใช้งานไป เกิดสึกหรอ
พอเสีย เราก้อเรียกช่าง
พอช่างมาไม่ทัน หรือซ่อมไม่ดี
เราก้อมักโกธร ไม่พอใจ
ที่เป็นอย่างนี้ เพราะเราซ่อมเองไม่เป็น
ไม่รู้จักส่วนประกอบ ไม่รู้วิธีซ่อมแซม
คาดหวังจะพึ่งพาแต่คนอื่น .. สิ่งภายนอก
"คีย์สำคัญ ที่เราจะรู้จักตัวเองได้
ต้องฝึก ซื่อสัตย์ ต่อความรู้สึกตัวเอง"
ตระหนักรู้ตัวตน รู้ว่าไม่ได้หลงทาง
รู้ว่า สิ่งที่ทำอยู่ นั้นทำเพื่ออะไรกันแน่ ..
รู้ว่า ในร่างเรา ธรรมชาติแล้ว ประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง
มีชุดความคิด มีฮอร์โมน มีอารมณ์ มีความรู้สึก ฯลฯ
เราปล่อยให้ สิ่งเหล่านี้ได้ทำงานตามธรรมชาติ มายาวนาน
แต่เราไม่เคยรู้จัก วิธีบำรุงรักษา ให้เหมือนใหม่ อย่างแท้จริงเลย
จึงทำให้ เกิดความเสื่อม ทั้งร่างกาย จะจิตใจ ตามมาอย่างมากมาย
เวลาต่อมา self พัง ไม่รู้วิธีเยียวยา
จน ต้องหันเหไปพึ่งพา เสพการเติมเต็มจากภายนอก
จนกระทั่งเรียกยาแรงขึ้น การเป็นการเสพติดขั้นรุนแรง
กลายเป็น สภาวะ aholic
ละเลยการรักษาเยียวยาตัวเอง
จากความสัมพันธ์อันดี ภายในครอบครัว
ออกไป เพื่อแสวงหาการรักษา ซ่อมแซมตัวเอง
จากสิ่งต่างๆ ภายนอกตัว
จะเข้าใจเรื่องนี้ต้องรู้พื้นฐาน
ของสมอง อารมณ์ และร่างกายก่อน นะคะ
สมองมี 3 ส่วน
1) Neocortex (ความคิดและเหตุผล)
2) Limbic system (อารมณ์และความรู้สึก)
3) Reptilian complex (การเอาตัวรอด)
- มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่สมองส่วนที่ (1)
ซึ่งพัฒนาไปมาก ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
- แต่แก่นของทุกชีวิตจริงๆคือส่วนที่ (2) และ (3)
อารมณ์และความรู้สึกและการเอาตัวรอด
อารมณ์ทำหน้าที่สนับสนุนการเอาตัวรอด
ความโกรธ ความกลัว ความเกลียด
และ ความรู้สึกไม่ดีทั้งหลายเกิดขึ้นเพื่อปกป้องชีวิตเรา
ให้เราถอยห่างจากอันตราย
- สัญชาตญาณการเอาตัวรอดจริงๆมีแค่สู้หรือหนี
fight or flight มีแค่ 2 ทางเลือก
สู้ให้มันรู้แล้วรู้รอด แล้วก็จบ หนีไปเลย แล้วก็จบ
- แต่มนุษย์เรากลับมี “เหตุผล” จากสมองส่วนที่ (1)
มันเกิดทางเลือกใหม่อันที่ 3
“ถึงจะรู้สึกไม่ดีแต่ก็จำใจทนด้วย ‘เหตุผล’ บางอย่าง”
และที่สำคัญมันไม่จบ …
ต้องทนอยู่กับความรู้สึกไม่ดีไปเรื่อยๆ
ดังเช่น คนที่วันๆเอาแต่บ่นว่าที่ทำงาน
ปากบอกจะลาออกทุกวัน แต่ก็อยู่ไปเรื่อยๆยันเกษียณ
(ถ้าเค้าไม่ไล่ออกซะก่อนนะ)
- ระบบของร่างกายและอวัยวะภายในต่างๆ
(involuntary system) ถูกควบคุมด้วยอารมณ์ไม่ใช่เหตุผล
เหมือนที่ เวลามีความรัก หัวใจจะสูบฉีด
เวลาตกใจ จะขนลุก
เวลากลัว หน้าก็ซีดเป็นลม
เวลาโกรธ ฮอร์โมนก็เปลี่ยนแปลง
เวลาสงบ กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
เวลาเครียด ภูมิคุ้มกันก็ลดลง
เหตุผลควบคุมได้เพียงแขนขา (voluntary system) เท่านั้น
- ดังนั้นหากมีความผิดปกติภายในเกิดขึ้น
โดยที่ไม่ได้เป็นมาตั้งแต่เกิด หรือได้รับเชื้อมาจากภายนอก
นั่นคือ เกิดความผิดปกติของอารมณ์ขึ้น
และมันส่งผลต่อระบบร่างกายภายใน
แต่คนยุคนี้มักจะบอกว่า “ไม่มีปัญหา ทุกอย่างโอเค”
ไม่มีอะไรผิดปกติ (อาจไม่จริงเสมอไปค่ะ)
“หลบใน”
#รู้ว่าอะไรคือสิ่งขับเคลื่อนชุดความคิดและจิตใจ
. . .. . .
คนส่วนใหญ่คงรู้จักประโยคที่ว่า ..
".. ต้องรักตัวเองให้เป็นก่อน จึงจะรู้จักรักผู้อื่น .."
แต่ทำไม่ได้ เพราะไม่เคยเข้าใจว่า .. #รักเป็น
#รักเป็น หมายความว่า .. อย่างไร..?
ได้แต่ .. เดา คิดไปเอง หรือเข้าใจผิด
แล้วก็ไม่รู้วิธีด้วย..!!
คนที่รักตัวเอง คือ
#คนที่พึ่งตัวเองได้ รู้วิธีทำตัวเองให้เป็นที่พึ่งได้
จึงจะรู้จักรักคนอื่น และถ่ายทอดวิธีรู้จักรักตัวเอง
ทำตัวเองให้เป็นที่พึ่ง แก่คนที่เรารักและคนอื่นๆ ได้
การพึ่งตัวเองได้ ไม่ได้หมายถึง ความสามารถ
ในการหาเงินได้เยอะๆ มีตำแหน่งสูงๆ บ้านหลังใหญ่ๆ
เคยเห็นคนที่มีพร้อมทุกอย่าง
แต่ก็ไม่มีความสุขไหม..?
เคยเห็นเด็กที่ขาดพ่อแม่เอาใจใส่
เพราะพ่อแม่เอาแต่ทำงานไหม..?
ความสามารถในการพึ่งตัวเองได้
คือ #มีใจที่เป็นอิสระ
สุขได้ พอใจ จากสิ่งที่อยู่ภายในตัวเอง
ไม่ต้องเอาความสุขของตัวเองไปผูกกับสิ่งอื่น
ไม่ต้องรอให้เกิดกิจกรรมภายนอกใดๆเลย
ใจก้อเกิดความเป็นสุขขึ้นได้
เช่นอะไร การนอน ยิ้ม หัวเราะ การร้องเพลง
กิจกรรมที่เกิดขึ้นจากพื้นฐานธรรมชาติชีวิต
กับความเป็นธรรมดา ของชีวิตนั่นเอง
แต่ถ้าเรา ต้องพึ่งคนอื่น พึ่งสิ่งภายนอก
จะมีความสุขได้ ก็ต่อเมื่อมีคนรัก
มีสิ่งของ มีเหตุการณ์ มีบุคคล
หรือ เมื่อต้องมีเงินมากๆ เมื่อได้รับการยอมรับ
เมื่อต้องจ่ายเงิน เมื่อต้องได้ยิน ได้ฟัง ฯลฯ
ใจก็ขาดอิสระ เป็นความสุข ที่มีเงื่อนไข
#ต้องเสพจึงจะสุข จึงไม่ถูกทาง
ตอนถูกด่า ก็ยังทุกข์ และโกรธ
ตอนประสบกับสิ่งที่ไม่พอใจ ไม่อยากได้
หรือได้สิ่งที่ไม่อยากได้ ก็ทุกข์
ยามเจ็บป่วย หมอแค่ให้ยาช่วยบรรเทา
แต่ไม่มีใครป้องกัน ไม่ให้เราเจ็บ หรือทรมานได้
ไม่มีใครช่วยเรา หรือช่วยใครไม่ให้ตายได้
ไม่มีใครช่วยเรา.. หรือช่วยใครไม่ให้ต้องเกิดความทุกข์ซ้ำๆได้
ไม่มีใครเป็นที่พึ่ง ให้แก่ใครได้ตลอดเวลา.. และตลอดไปได้.
ทุกคนต้องรู้จักวิธีจัดการกับปัญหา เข้าใจความทุกข์
รู้จักความสุขที่แท้จริง ด้วยใจของตัวเอง
#ไม่ตกเป็นตัวประกันของอารมณ์
และพึ่งความต้องการจากภายนอกอย่างเดียว
---------------------------------------------------------
มีประโยคมากมาย บอกไว้แค่ ว่า
ต้องปรับ ความคิดและฝึกจิตใจ
แล้วมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
หลายคนคงสงสัย หรือ คิดเท่าไรก้อทำไม่ได้
1. เข้าใจชุดความคิด
ชุดความคิด คือ ...
" คนแบบฉันจะทำแบบนี้ละ ในสถานการณ์แบบนี้ "
ที่มา
- ทำตาม แต่โบราณ ประเพณี กระแส
- ทำตาม สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู หรือ สังคม
- ทำตาม ความเคยชิน ตามใจตัวเอง
ชุดความคิด ที่พบเจอ ใช้กันบ่อยๆ
- คิดลบๆ มองหาเรื่องร้ายๆ เพื่อป้องกันภัย
- คิดง่ายๆ คิดน้อยๆ คิดสั้นๆ เพื่อประหยัดพลังงาน
- คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน เพื่อการอยู่รอด
ชุดความคิดเหล่านี้ หากใช้ประจำ ยาวนาน
ตลอดจน กลายเป็นค่าตั้งต้น หรือ นิสัย นั่นเอง
" สิ่งใด ที่เราให้ความสำคัญ
เราจะเห็นสิ่งนั้น มากเป็นพิเศษ
ลองถามตัวเองดู ว่าเราตั้งชุดความคิดไว้ทิศใด "
#แล้วระวังนิสัยจะกลายเป็นเจ้าของเรา
2.เข้าใจถึงระบบสารเคมีในสมองที่ควบคุมความคิด
วันนี้ จึงจะขอหยิบยก ข้อมูลทางการแพทย์ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
มีอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติ
เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล สมาธิสั้น เครียด นอนไม่หลับ
บางทีเราอาจคิดว่าอาการเหล่านี้
เกิดจากสภาพอารมณ์และจิตใจที่แปรปรวน ...
แต่รู้ไหมว่า หลายครั้งความผิดปกติทางจิตใจ
ก็มีสาเหตุมาจาก สารเคมีในสมองขาดความสมดุล
และเนื่องจากสมองเรานั้นมีความซับซ้อนมาก
จึงอาจเกิดสารเคมีในสมองไม่สมดุลได้โดยที่เราไม่รู้ตัว
และไม่ทราบสาเหตุ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ของสภาพจิตใจที่กระทบชีวิตประจำวันได้
สารเคมีในสมองมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า
“สารสื่อประสาท” หรือ Neurotransmitter
ซึ่งเป็นสารที่เซลล์ประสาทสร้างขึ้นเพื่อใช้ส่งกระแสประสาท
จากเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่ง เมื่อเซลล์ประสาทถูกกระตุ้น
กระแสประสาทจะไหลไปตามเส้นประสาทเหมือนกระแสไฟฟ้า
จนเมื่อไปถึงปลายประสาท
กระแสประสาทจะกระตุ้นให้ปลายประสาทหลั่งสารสื่อประสาทออกมา
เพื่อให้ไปจับกับ ตัวรับ (receptor)
บนเซลล์ประสาทปลายทาง และเมื่อเซลล์ปลายทางถูกกระตุ้น
ก็จะส่งกระแสประสาทต่อไปเรื่อยๆ โดยสารสื่อประสาท
อาจมีฤทธิ์กระตุ้นหรือยับยั้งการทำงานของเซลล์ประสาทก็ได้
โดยปกติระบบประสาทเราจะมีการตรวจสอบ
เพื่อป้องกันไม่ให้สารสื่อประสาทกระตุ้น
หรือยับยั้งการทำงานของเซลล์ประสาทมากเกินไป โดยวิธีการดังนี้
ซึ่งกลไกเหล่านี้ ช่วยให้สารสื่อประสาทเกิดความสมดุล
และสามารถส่งกระแสประสาทได้เป็นปกติถูกต้อง
ในสมองเรามีสารเคมีหรือสารสื่อประสาทอยู่มากมายหลายชนิด
ยกตัวอย่างชนิดที่สำคัญต่อชีวิตประจำวันของเรา ได้แก่
สารเคมีในสมองไม่สมดุล คือการที่สารสื่อประสาทแต่ละชนิดมีระดับมากหรือน้อยผิดปกติ ซึ่งมักเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อว่าปัจจัยน่าจะมาจากพันธุกรรม ความเครียด การใช้สารเสพติด และมีฮอร์โมนแปรปรวน
หากสารเคมีในสมองไม่สมดุล จะส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ ดังนี้
สรุป .. ว่า
การรักษา ความสมดุล ของสารเคมีในสมอง
จะช่วยให้ ตัวเรา ไม่ตอบสนอง ต่อ สิ่งเร้า
ที่เข้ามา มากมายในชีวิตประจำวันได้ โดยง่ายค่ะ
#ชวนกันเติมสารอาหารปรับสมดุลเคมีในสมองเพื่อจิตใจ
จาก บทความ ที่เป็นเชิงการแพทย์ นำมาสรุป ได้โดยง่ายว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ครอบครัวและ สังคม
เด็กติดยา ติดเกมส์ ติดโซเชี่ยล เสพติดยอดไลค์ เสพติดการยอมรับ ชื่นชม ฯลฯ
ผู้ใหญ่ติดการพนัน ติดสุรา ติดผู้หญิง ติดดารา ติดสารเสพติดต่างๆ ฯลฯ
การเสพติด เสพสุข โดยมีเงื่อนไข หรือสิ่งที่ได้จากภายนอก
เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลักๆ คือ สารเคมีในสมอง และ ชุดความคิดที่ถ่ายทอดตามกันมา
มีกลุ่มตัวอย่าง โรค aholic มาเล่าให้ฟังค่ะ
“Shopaholic”
#เสพติดการช็อปปิ้ง…
คุณกำลังเป็นโรคนี้อยู่หรือเปล่า?!!
Shopaholic หรือ “พฤติกรรมเสพติดการช็อปปิ้ง”
- ถือเป็นโรคชนิดหนึ่ง
- ผู้ป่วยจะรู้สึกปลื้มปีติเป็นสุขทุกครั้ง
ที่ได้เสียเงินซื้อของ ทั้งจับต้องได้และไม่ได้
จิตใจอันกระวนกระวายจะสงบนิ่งลงได้
เมื่อล้วงเงินในกระเป๋าออกมาแล้วยื่นออกไป
ไม่ว่าของเหล่านั้นจะจำเป็นหรือไม่จำเป็น
สาเหตุของโรค ...
เกิดจากความอยากที่ไม่สิ้นสุด
และภาวะทางจิตใจซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจ
และการยับยั้งชั่งใจ
โดยเมื่อภาวะจิตใจรู้สึกซึมเศร้า หดหู่
และเครียด ก็จะหาเวลาไปเดินช็อปปิ้ง
เพื่อสร้างความสุขชั่วครู่ชั่วคราว
ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนขึ้นมาให้มีความสุข
ระยะต่อมาร่างกายก็จะเสพติดความสุขดังกล่าว
และต้องการกลับเข้าสู่ห้วงแห่งความสุขนั้นเรื่อยๆ
เหตุผลสำคัญ ...
อีกประการหนึ่งที่ทำให้คนเสพติดการซื้อ
คือต้องการสร้างตัวตนในสังคมเพื่อให้เกิดการยอมรับ
อาทิ การแต่งตัวให้สวยงาม ตามแฟชั่น
เพื่อสร้างรูปลักษณ์ตัวเองให้ดูดีขึ้น
การใช้กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงมีระดับ
ให้ดูเหนือกว่าคนอื่น
เวลาตกหลุมรักสิ่งหนึ่ง dopamine ซึ่งเป็นฮอร์โมนความฟิน
(เวลาได้ยาบ้า ตัวนี้จะออกมาเยอะมาก)
และ serotonin ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขจะสูงปรี๊ดปร๊าด
ทำให้คิดถึงสิ่งๆนั้น เฝ้ารอการกลับมา ราวกับติดยาเลยทีเดียว
แต่พวกหมดช่วงโปร Dopamine ก็จะต่ำลง
แต่ Oxytocin ที่เป็นฮอร์โมนแห่งความผูกพันก็จะสูงขึ้นแทน
ความรักความต้องการสิ่งนั้นก็จะไม่ฟู่ฟ่าเหมือนช่วงแรก
แต่เป็นความรักและต้องการ แบบระยะยาว
สำหรับคนซึมเศร้าก็จะพบว่า สาร serotonin ต่ำ
ซึ่งยาที่ใช้รักษาซึมเศร้าหลักๆ
ก็จะเป็นยาที่ออกฤทธิ์ทำให้ serotonin สูงขึ้นค่ะ
ลองดูว่าเราเป็นแบบไหน ?
-------------------------------------------------------------------------------
1. อยากมีชีวิตที่ดีระดับสารเคมีในสมอง ต้องสมดุล
หากไม่สมดุล ไม่คงที่ และต้องบำรุงสมองให้มีสมดุล ตลอดเวลา
วิธีแก้ไข คือ
- ออกกำลังกาย ประมาณ 20 นาทีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นการหลั่งของสารเคมีในสมอง
- ทำสมาธิ ทำให้จิตใจสงบ ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันให้ดี
- หมั่นสร้างความสัมพันธ์อันดี ต่อสมาชิกในครอบครัว
- การมีเพศสัมพันธ์กับคู่ครอง ที่ถึงจุดสุดยอด
- รับประทานอาหารที่มีกรดอะมิโนและโปรตีนอย่างเพียงพอ เพราะโดพามีนสังเคราะห์มาจากกรดอะมิโนที่ชื่อ Tyrosin ซึ่งจะได้จากอาหารประเภทโปรตีนที่เรารับประทานอยู่ทุกวัน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ฯลฯ
- กินอาหารที่มีโปรตีนสูง เพราะเซโรโทนินสร้างมาจากทริปโตเฟน (Tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนเอซิตตัวหนึ่งที่สามารถสังเคราะห์ฮอร์โมนได้
- หากประเมินแล้วว่า ทานอาหารในชีวิตประจำวัน ได้ไม่ครบ 5 หมู่ หมั่นเสริมสารอาหารด้วยอเลอไทด์ เพราะ ใน อเลอไทด์ จะมี น้ำมันปลา และ สารอาหารที่สมองต้องการ ถึง 12 ชนิด มากเพียงพอต่อวัน
ที่สมองจะนำไปใช้ รักษาสมดุล สารเคมีในสมองได้ดีในทุกๆวัน เหมาะสำหรับเป็น สารอาหารเสริมสามัญประจำครอบครัว
2 ฝึกตั้งคำถามเปลี่ยนความคิด เพื่อชีวิตเปลี่ยน
ลองใช้อีกแนวทาง ดังนี้ ค่ะ
- ฉันตั้งค่าความคิดไว้ทิศไหน ?
เข้าใจระบบการทำงานของสมอง สิ่งใดที่เราให้ความสำคัญ เราจะเห็นสิ่งนั้นมากเป็นพิเศษ
คือ เราจะมองเห็น เฉพาะสิ่งที่เราอยากเห็น โดยที่สมองไม่รู้ว่า อะไรคือเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี
จนกลายเป็นคำทำนายที่เป็นเรื่องจริง
- ฉันกำลังคิดและพูดเรื่องที่ดี ต่อตัวเองอยู่หรือไม่ ?
เริ่มจากการ สำรวจ ว่า เราคุยกับใครมากที่สุด
คนส่วนมากจะนึกเร็วๆเป็นคนอื่น แต่ในความจริง เราคุยกับตัวเราเองมากที่สุดค่ะ
ถามตัวเองทุกๆวันก่อนนอนค่ะ ...
วันนี้ฉันมีเรื่องอะไรดีๆ ที่ฉันขอบคุณตัวเองได้บ้าง
- ฉันกำลังทำสิ่งที่คุ้มค่าอยู่หรือไม่ ?
เพราะสมองคนแบ่งเป้น 3 ส่วน
1) Neocortex (ความคิดและเหตุผล) มีอยู่ในทุกสิ่งมีชีวิต การคิดเพื่อชีวิตประจำวัน
2) Limbic system (อารมณ์และความรู้สึก)
3) Reptilian complex (การเอาตัวรอด) มีเฉพาะในมนุษย์ การจัดให้คุ้มค่า
สิ่งที่มีมนุษย์ ได้มาเท่ากัน คือเวลา
จับตาสำรวจว่า เราใช้เวลา ไปกับสิ่งที่คุ้มค่าหรือไม่
ชีวิต นี่น่าแปลก อะไรที่เร่งด่วน มักจะไม่สำคัญ
เช่นเรื่องของคนอื่น การเล่นเกมส์ การดูหนัง การไปเที่ยว
อะไรที่สำคัญ มักจะไม่เร่งด่วน
เช่นการรักษาสุขภาพ การรักษาความสัมพันธ์กับคู่ครอง การเก็บออม การออกกำลังกาย
- ฉันได้ข้อสรุปอะไรจากเรื่องเหล่านี้บ้าง ?
สมองคนเราไม่ได้ถูกออกแบบ ให้คิดอะไรซับซ้อน เพราะเปลืองพลังงาน
ชอบให้คิดง่าย ๆ และ ลืมง่าย
ฉะนั้นเราต้องทำสรุป ประเมิน เหตุการ์ณต่างๆที่เกิดขึ้นและมีผลกับชีวิตเรา
เรื่องสำเร็จ เรื่องผิดคลาด เรื่องหายนะ เรื่องที่ป้องกันได้
- ความคิดฉันส่งผลกระทบต่อผู้อื่นอย่างไรบ้าง ?
Check List
1.คุยแต่เรื่องที่ชอบ หรือ ไม่ชอบ
2.ชอบนินทา หรือ ชอบชื่นชมผู้อื่น
3.ชอบคุยเรื่องอดีต หรือ เรื่องอนาคต
(บางคนอดีตชัดเจน วันวานยังหวานอยู่ แต่อนาคตไม่รู้จ้า
แบบนี้ไม่ได้นะคะ )
4.ฉันเอาแต่โทษตัวเองหรือเอาแต่โทษคนอื่น
( มนุษย์ทุกคนมีพื้นฐานใจที่ดี ตระหนักรู้ถึงจุดเกิดเหตุได้ )
*******************************************
เป็นอย่างไรบ้างค่ะ ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ ก้อ นำไปใชได้ค่ะ
การดูแล เช็คสภาพ ร่างกายเปรียบได้คือตัวถังรถ
ดูแลเช็ค ระดับสารเคมีในสมอง และ จิดใจ ชุดความคิดเบื้องต้น
เหมาะสำหรับนำไป ปรับใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัย นะคะ
หากท่านผู้อ่าน สามารถเริ่มสำรวจ ใช้เป็นแนวทาง
ที่จะปรับเปลี่ยนให้แก่ตัวเอง และ สมาชิกในครอบครัว
หวังว่า ท่านจะใช้ข้อมูล เป็นประโยชน์ ดำรงชีวิต
ด้วยร่างกายที่เป็นสมบัติของเราเอง อย่างมีความสุขได้จริงค่ะ
#ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ
สวัสดีค่ะ ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ นะคะ
#ปรึกษาการใช้สารอาหารฟื้นฟูสมองทุกส่วน
#อยากมีชีวิตที่ดีสารเคมีในสมองต้องสมดุล
อเลอไทด์ สารอาหารสูตรครบถ้วน รวมสารสกัดกว่า 12 ชนิด
ตัวช่วย รักษาสมดุล สารเคมีในสมอง
ไม่ให้อยู่ในสภาวะ ต่ำ จนก่อให้เกิด ภาวะซึมเศร้า
หรือ สูงรวดเร็ว จนก่อให้เกิด สภาวะเสพติดสิ่งเร้าง่าย
ทั้งยัง ถนุดถนอมสุขภาพสมอง ให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรงอีกนาน
โทร 091-753-0609 หรือ 061-772-9888
เยี่ยมชม เวปไซด์ คลิก https://bit.ly/35fMkqX
หน้าที่เข้าชม | 512,643 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 423,109 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ต.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 11 ก.ย. 2568 |